ตรวจสภาพรถคู่ใจด้วยตัวเองง่าย ๆ ก่อนออกเดินทางไกล

ก่อนออกเดินทางในระยะไกล นอกจากความพร้อมของคนขับแล้ว ความพร้อมของรถยนต์ก็สำคัญและไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่พบเจออุบัติเหตุ หรือความเสียหายขณะเดินทาง โดยในบทความนี้จะอธิบายว่าทำไมถึงต้องตรวจสอบรถยนต์ รวมไปถึงวิธีการตรวจสอบรถยนต์ด้วยตัวเองง่าย ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมรถยนต์ให้เหมาะสมกับการเดินทางในระยะไกล

การตรวจเช็กสภาพรถยนต์สำคัญอย่างไร?

ผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวนั้น หลายคนมักคิดว่าหากรถยนต์ไม่เสียและยังใช้งานได้ตามปกติ ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบสภาพรถยนต์ให้ยุ่งยาก ซึ่งความคิดเช่นนี้เป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก เพราะการตรวจสภาพรถยนต์นั้นสำคัญมากที่สุด แม้ว่าจะไม่ได้เดินทางไกลก็จำเป็นต้องหมั่นดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รถยนต์หรืออะไหล่ส่วนต่าง ๆ มีอายุการทำงานยืนยาว และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การตรวจเช็กสภาพรถยนต์สำคัญอย่างไร

โดยการตรวจเช็กสภาพรถนั้นสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก แม้แต่ท่านผู้หญิงก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นหลาย ๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นภายนอกของรถยนต์อย่างล้อ ยาง หรือที่ปัดน้ำฝน เป็นต้น และภายใน เช่น เครื่องยนต์ เบรก หรือน้ำมันเครื่อง ซึ่งการตรวจสอบสภาพรถยนต์จะช่วยลดความเสี่ยงหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ อีกทั้งยังเป็นการทำให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ตรวจสอบสภาพรถยนต์ ควรเช็กอะไรบ้าง?

หลายคนคิดว่าการตรวจสอบสภาพรถจำเป็นต้องเข้าร้านซ่อมหรือศูนย์เพียงอย่างเดียว ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง ดังนั้นแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าการตรวจสอบสภาพของรถยนต์ ก่อนออกเดินทางไกลควรเช็กอะไรบ้าง เพื่อให้รถสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดการเดินทางทาง

ตรวจสอบสภาพรถยนต์ ควรเช็กอะไรบ้าง

  • น้ำมัน

ก่อนออกเดินทาง จำเป็นต้องตรวจเช็กปริมาณน้ำมันเครื่องของรถ และควรคำนวณหรือกะระยะว่าน้ำมันที่เหลือสามารถเดินทางถึงเป้าหมายหรือไม่ โดยหากเป็นการเดินทางในระยะไกลมาก ๆ ควรนำน้ำมันเครื่องสำรองติดรถไว้อย่างน้อย 1 – 2 ลิตร เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินที่น้ำมันเครื่องหมด 

  • ระบบเบรก

หนึ่งในส่วนที่ขาดไปไม่ได้เลยกับระบบเบรก โดยเฉพาะเวลาขับรถตอนฝนถึง ถนนลื่น ทางลาดชัน หรือถนนที่ทำให้ควบคุมรถยากมากขึ้น เบรกจึงเป็นส่วนช่วยสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมรถได้มั่นคง ซึ่งควรตรวจสอบว่าระบบเบรกทำงานได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่ และน้ำมันเบรกแห้งหรือเหลือมากน้อยแค่ไหน เพราะหากน้ำมันเบรกต่ำกว่าระดับ Min ของรถแต่ละรุ่น หรือสังเกตเห็นว่าน้ำมันเบรกลดลงเร็วผิดปกติ ควรนำรถไปตรวจเช็กโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ

  • ยางรถยนต์

ไม่เพียงแค่ลมยางรถยนต์เท่านั้น ก่อนออกเดินทางจำเป็นต้องตรวจสอบยางว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ โดยยางรถยนต์ที่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ ยางไม่มีรอยเจาะ ยางไม่บวม ยางไม่แตก ดอกยางไม่หมด รวมไปถึงร่องยางควรมีความลึกไม่น้อยกว่า 1.6 มิลลิเมตร ซึ่งหากขาดสิ่งใดไป ควรเปลี่ยนยางใหม่ เพื่อให้สามารถใช้ยางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ (Battery) มีหน้าที่ในการจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการตรวจสอบแบตเตอรี่นั้นควรดูว่าขั้วแบตเตอรี่และฉนวนสายไฟมีการเชื่อมต่อกันดีหรือไม่ อีกทั้งควรทำความสะอาดคราบต่าง ๆ บริเวณขั้วแบตเตอรี่ รวมไปถึงตรวจเช็กระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับรถแต่ละรุ่นอยู่เสมอ 

  • ระบบไฟ

ผู้ใช้รถจำเป็นต้องตรวจระบบไฟทั้งหมดของรถยนต์ ทั้งไฟแผงควบคุม ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟตัดหมอก และไฟฉุกเฉินว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุการขับขี่ในเวลากลางคืน หรือช่วงหมอกหนา

  • แตรรถยนต์

มั่นใจได้เลยว่าหลายคนมองข้ามเรื่องแตรรถยนต์ ซึ่งจริง ๆ แล้วการเดินทางไกล แตรรถเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก เนื่องจากขณะเดินทาง อาจจะเจอทางที่ไม่คุ้นชิน หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้แตร รวมไปถึงการใช้แตรรถในการสื่อสาร หรือส่งสัญญาณให้กับรถคันอื่น ดังนั้นแล้ว ก่อนออกเดินทาง ควรตรวจสอบว่าระบบแตรรถยนต์เสียงดังชัดเจนหรือไม่

  • แผ่นกรองอากาศ

ส่วนสำคัญที่จะช่วยป้องกันรถยนต์จากสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ภายนอก ซึ่งจำเป็นต้องตรวจสอบว่าแผ่นกรองอากาศนั้นอุดตันหรือไม่ หากแผ่นกรองอากาศเกิดการอุดตัน จะส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงทำให้ส่วนประกอบของเครื่องยนต์สึกหรอ โดยวิธีการทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงนำตัวกรองอากาศออกมา และดูดสิ่งสกปรกให้สะอาด หรือหากสกปรกมากเกินไป สามารถเปลี่ยนแผ่นกรองได้เช่นเดียวกัน

  • ที่ปัดน้ำฝน

สภาพอากาศเป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้ แม้ว่าจะไม่ใช่ฤดูฝน ก็อาจเป็นไปได้ที่จะเกิดฝนตก ซึ่งหากที่ปัดน้ำฝนไม่สามารถใช้งานได้ หรือไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอนั้น ส่งผลให้วิสัยทัศน์ขณะขับขี่ไม่ดี ทำให้ผู้ขับมองไม่เห็นทาง และอาจเกิดอุบัติเหตุได้ โดยปกติแล้ว ควรเปลี่ยนที่ปัดฝนน้ำในทุก ๆ 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน

ที่ปัดน้ำฝน

บทสรุป

ก่อนออกเดินทางไกลทุกครั้งจำเป็นต้องตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถยนต์ว่าส่วนต่าง ๆ พร้อมและเหมาะสมในการขับขี่ระยะไกลหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก ระบบไฟ น้ำมันเครื่อง หรือเครื่องยนต์ เป็นต้น เพื่อให้การเดินทางราบรื่น และรถสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ตลอดการเดินทาง

สำหรับใครที่กำลังมองหารถขายอะไหล่ เพื่อเปลี่ยนให้กับรถยนต์คู่ใจ CNC789 ร้านขายอะไหล่รถยนต์พร้อมให้บริการทุกท่านอย่างจริงใจ ด้วยอะไหล่แท้จากศูนย์ที่รับประกันคุณภาพของสินค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุด หากใครสนใจอะไหล่รถยนต์ สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ หรือโทรสอบถามที่เบอร์ 02-420-7899

Select the fields to be shown. Others will be hidden. Drag and drop to rearrange the order.
  • Image
  • SKU
  • Rating
  • Price
  • Stock
  • Availability
  • Add to cart
  • Description
  • Content
  • Weight
  • Dimensions
  • Additional information
Click outside to hide the comparison bar
Compare
CNC789
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.