ยางรถ EV กับยางรถธรรมดา สามารถใช้งานร่วมกันได้ไหม

รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV คือรถยนต์ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ โดยจุดเริ่มต้นคือ การตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม มลพิษทางอากาศ และการใช้พลังงานมากหลายเท่า ทำให้ในหลาย ๆ ประเทศเริ่มมีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันแพร่หลายขึ้น และประเทศไทยเองก็มีการใช้รถไฟฟ้า รถยนต์ EV ไม่น้อยเช่นกัน โดยบทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้ากันให้มากขึ้น พร้อมความแตกต่างระหว่างยางรถยนต์ไฟฟ้า หรือยาง EV และยางรถยนต์ธรรมดา พร้อมประเภทรถไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่อย่างเป็นทางการในปัจจุบัน

ความแตกต่างระหว่างยางรถ EV และยางรถธรรมดา

ด้วยคุณสมบัติและการออกแบบที่แตกต่างกันของรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ธรรมดา ทำให้ยางรถยนต์ต้องเหมาะสำหรับคุณสมบัติของรถยนต์ด้วย เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่กระนั้น ผู้ใช้หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเลือกใช้ยาง EV แตกต่างกันอย่างไร บทความนี้เราจะพาไปดูความแตกต่างกันว่าทำไมถึงต้องเลือกใช้ยางรถยนต์ให้เหมาะสมกับรถยนต์และการใช้งาน จะแตกต่างกันด้านใดบ้าง ตามไปดูพร้อมกัน

ด้านความทนทาน

รถยนต์ไฟฟ้ามีการใช้มอเตอร์พลังงานที่มีแรงบิดค่อนข้างสูงเป็นพิเศษ ซึ่งการเลือกใช้ยางรถธรรมดาให้กับรถยนต์ไฟฟ้าจะส่งผลให้ยางสึกหรอได้เร็วกว่าปกติ ดังนั้นแล้ว ยาง EV จึงถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อแรงบิดสูง เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนยางบ่อยครั้ง

ด้านเสียง

ยาง EV มีการออกแบบด้วยเทคนิคและการผลิตแบบพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น การใช้รูปแบบดอกยางแบบพิเศษ การใช้โฟมซับเสียง หรือสารประกอบของยางต่าง ๆ จึงทำให้ยางมีความนุ่ม เงียบ รักษาความเงียบขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่แปลกเลยที่จะมีความเงียบมากกว่ายางรถธรรมดา แต่กระนั้นก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงมากขึ้นตามไปด้วย

ด้านการยึดเกาะ

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ารถไฟฟ้ามีการใช้ระบบเบรกแตกต่างจากรถยนต์ทั่วไป โดยเป็นระบบเบรก Regenerative Braking เมื่อเหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็ว ตัวรถจะถูกหน่วงให้ช้าลง จึงทำให้ยาง EV ต้องมีคุณสมบัติยึดเกาะพื้นผิวถนนได้ดีกว่าปกติ เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานของระบบเบรกของรถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงลดการไหลลื่นขณะเลี้ยวอีกด้วย

ด้านประหยัดพลังงาน

หนึ่งในจุดประสงค์ของผู้พัฒนายาง EV คือการผลิตยางรถยนต์ที่สามารถลดแรงต้านการหมุนได้ ซึ่งปกติแล้ว แรงต้านการหมุนนี้เป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลให้รถยนต์สูญเสียพลังงานสูง หากเลือกใช้ยางรถ EV ที่ลดแรงต้านได้ก็จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้น ทำให้การขับขี่บนท้องถนนยาวนานมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดการปล่อยมลพิษทางอากาศได้เช่นกัน

ด้านการรับน้ำหนัก

ต้องทราบก่อนว่ารถยนต์ไฟฟ้าแทบทุกรุ่นมีขนาดแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างใหญ่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเหตุผลให้ยาง EV จำเป็นต้องมีคุณสมบัติด้านการรับน้ำหนักได้มาก จึงส่งผลให้ยางรถ EV มีความสามารถด้านการรับน้ำหนักได้มากกว่ายางรถปกติทั่วไป 

ประเภทรถไฟฟ้ามีกี่แบบ? ต่างกันอย่างไร?

ในปัจจุบันนี้ รถยนต์ไฟฟ้าสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน ประกอบไปด้วย ไฮบริด / ไฮบริดปลั๊กอิน / แบตเตอรี่ และเซลล์เชื้อเพลิง โดยคุณสมบัติและประโยชน์ของรถไฟฟ้าแต่ละแบบก็มีความแตกต่างกันออกไป การใช้งานก็ต่างกันตามไปด้วย ดังนั้นแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่ารถไฟฟ้าแต่ละแบบมีคุณสมบัติอย่างไร และรถไฟฟ้าใช้พลังงานอะไรในการขับเคลื่อน

ประเภทไฮบริด (Hybrid)

รถไฟฟ้าแบบไฮบริด หรือ HEV (Hybrid Electric Vehicle) ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ เพื่อให้มีคุณสมบัติด้านการประหยัดเชื้อเพลิงดีกว่ารถยนต์ทั่วไป นอกจากนี้รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดยังสามารถนำพลังงานกลที่เหลือไปใช้ประโยชน์ได้ โดยการเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าและเก็บไว้ในแบตเตอรี่ แต่กระนั้น ไม่มีช่องเสียบปลั๊กสำหรับการชาร์จไฟฟ้า

ประเภทไฮบริดปลั๊กอิน (Plug-in Hybrid)

PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) ถือได้ว่าเป็นรถไฟฟ้าที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจากรถยนต์ไฟฟ้า HEV โดยมีการทำงาน 2 ระบบเช่นกัน คือ น้ำมันเชื้อเพลิงและไฟฟ้า แต่ความต่างคือ เพิ่มระบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟเข้ามา ซึ่งการอัดประจุไฟฟ้าจากภายนอกและนำมาเก็บไว้ในแบตเตอรี่ ส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้าประเภท PHEV สามารถวิ่งได้ยาวนานกว่าประเภท HEV นั่นเอง และไม่จำเป็นต้องได้รับการดูแลรถยนต์ไฟฟ้าเท่ากับ HEV

ประเภทแบตเตอรี่ (Battery)

ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV, Battery Electric Vehicle) คือการที่ไม่ปล่อยไอเสียออกมาเลย เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและใช้พลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้า เพียงแค่เสียบปลั๊กชาร์จไฟเท่านั้น โดยไม่มีการเผาไหม้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่มีการปล่อยมลพิษทางอากาศเลยแม้แต่น้อย

ประเภทเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell)

Feul Cell Electric Vehicle หรือที่รู้จักกันคือ รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง FCEV นั่นเอง โดยเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) ผ่านการเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจากภายนอก และมีความจุพลังงานจำเพาะที่ค่อนข้างสูงกว่าแบตเตอรี่ที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่กระนั้น ข้อเสียคือ สถานีเชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Station) ยังมีอยู่น้อยมากในประเทศไทย  

บทสรุป

ยางรถไฟฟ้าถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เนื่องจากหลักการทำงานและคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกับรถยนต์ธรรมดา จึงไม่ควรใช้ยางรถยนต์ธรรมดากับรถยนต์ไฟฟ้า แต่กระนั้น หากถามว่าสามารถใส่อะไหล่รถไฟฟ้าให้กับรถธรรมดาได้ไหม คำตอบคือ สามาถทำได้ เพียงแต่จะไม่เหมาะสมและไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับการใส่อะไหล่ที่เหมาะสมกับการใช้งานของรถยนต์นั่นเอง

หากใครกำลังมองหาร้านอะไหล่รถยนต์ ต้องที่ CNC 789 บริการขายส่งอะไหล่รถยนต์ ด้วยคุณภาพมาตรฐาน บริการครบวงจร และพร้อมให้คำแนะนำจากช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ลูกค้าได้รับอะไหล่ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด ใครที่สนใจสามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าได้ที่เว็บไซต์ หรือเบอร์ 02-420-7899