กรองแอร์รถยนต์ คืออะไร ? ใช้นานเท่าไรควรเปลี่ยน

“กรองแอร์รถยนต์” เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่มีความสำคัญต่อบรรยากาศในห้องโดยสารอย่างมาก เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่สามารถกรองฝุ่นละออง มลพิษในอากาศ รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพื่อให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถอยู่ในห้องโดยสารได้อย่างสบายใจในทุกการเดินทาง

ในบทความนี้ จะพาผู้ขับขี่ทุกคนมาทำความรู้จักไส้กรองแอร์รถยนต์ให้มากขึ้น รวมถึงอายุการใช้งาน นานแค่ไหนถึงควรเปลี่ยน? ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญเพื่อให้บรรยากาศในห้องโดยสารดีขึ้น และสบายใจในทุกการเดินทาง

กรองแอร์รถยนต์ คืออะไร

กรองแอร์รถยนต์ หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ ‘ไส้กรองแอร์’ (Cabin Air Filter) คือ ส่วนหนึ่งของระบบแอร์รถยนต์ ซึ่งทำหน้าที่ในการกรองอากาศ กรองลมเย็นจากช่องแอร์ก่อนจะเข้ามายังห้องโดยสาร และช่วยรักษาบรรยากาศในห้องโดยสาร นอกจากนี้ ยังสามารถยืดอายุการใช้งานของระบบปรับอากาศได้อีกด้วย เนื่องจากช่วยกรองสิ่งสกปรกช่วยลดการอุดตันในระบบนั่นเอง ทำให้การขับขี่ในทุกการเดินทางมีความสบายมากยิ่งขึ้น

ไส้กรองแอร์ มีกี่แบบ? เลือกอย่างไรดี

ไส้กรองแอร์รถยนต์สามารถแบ่งตามประเภทของวัสดุได้เป็น 3 รูปแบบหลัก ๆ ที่มีการใช้งานกันโดยทั่วไป ได้แก่

ไส้กรองแอร์ธรรมดา

ไส้กรองแอร์แบบธรรมดา (Standard Cabin Filter) เป็นไส้กรองที่ผลิตจากเส้นใยธรรมดา เช่น วัสดุที่เป็นกระดาษหรือเส้นใยสังเคราะห์ สามารถกรองฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่มีขนาดใหญ่ได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่นละออง หรือเกสรดอกไม้ เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับอาการแพ้ต่าง ๆ หรือเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

ไส้กรองแอร์แบบคาร์บอน

ไส้กรองแอร์แบบคาร์บอน (Activated Carbon Cabin Filter) เป็นไส้กรองที่ผลิตมาจากวัสดุที่มีการผสมคาร์บอนเข้าไปในชั้นกรอง จึงสามารถกรองฝุ่นละอองได้ดีขึ้น แถมยังสามารถดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้ เช่น มลพิษในอากาศ หรือกลิ่นบุหรี่ เป็นต้น เหมาะกับผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องกลิ่นในห้องโดยสาร

ไส้กรองแอร์แบบ HEPA

ไส้กรองแอร์แบบ HEPA (High-Efficiency Particulate Air Filter) เป็นไส้กรองที่ใช้เส้นในละเอียด สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กมาก ๆ อย่าง PM 2.5 รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ เชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัสบางชนิด จึงเป็นรูปแบบของไส้กรองแอร์ที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ รวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษค่อนข้างสูง

เมื่อได้ทำความรู้จักกับไส้กรองแอร์ทั้ง 3 รูปแบบหลัก ๆ ที่มีการใช้งานแล้ว หลายคนอาจจะยังไม่มั่นใจว่าควรจะเลือกแบบไหนดี ซึ่งการเลือกไส้กรองแอร์จะต้องพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ราคา งบประมาณที่ตั้งไว้, ความต้องการในการใช้งาน รวมถึงสภาพแวดล้อมและพื้นที่ที่มีการใช้รถยนต์อยู่เป็นประจำ เพื่อให้ได้ใช้งานไส้กรองแอร์รถยนต์ที่ตอบโจทย์และคุ้มค่ามากที่สุด!

ไส้กรองแอร์สกปรกหรืออุดตัน รู้ได้อย่างไร

• ภายในรถมีกลิ่นอับ หรืออากาศที่ไม่สดชื่น
• แรงลมที่ออกมาจากช่องแอร์อ่อนลง ไม่เย็นเท่าที่เคยเป็น
• แรงลมที่ออกมาจากช่องแอร์มีความชื้น หรือมีกลิ่นอับ
• มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกสะสมบริเวณช่องแอร์
• เสียงแอร์ดังขึ้นผิดปกติหรือมากกว่าปกติ
• เครื่องยนต์สั่น หรือเครื่องยนต์กำลังตกอย่างรู้สึกได้
• รถยนต์กินน้ำมันมากกว่าปกติ สำหรับการขับขี่ในระยะทางเท่าเดิม
• ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารพบว่ามีอาการแพ้หรือระคายเคืองบ่อยขึ้น

ควรเปลี่ยนไส้กรองแอร์เมื่อไหร่ดี

หากพบว่าบริเวณไส้กรองแอร์มีฝุ่นหรือคราบสกปรกต่าง ๆ ติดอยู่มากเกินไป จนในบางครั้งก็จับตัวเป็นก้อน ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของแอร์รถยนต์ ผู้ขับขี่ควรจะเปลี่ยนไส้กรองเพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

โดยปกติแล้ว ไส้กรองแอร์ควรจะเปลี่ยนทุก 1 ปี หรือระยะทาง 20,000 กิโลเมตร และควรมีการตรวจเช็กระยะทางทุก 10,000 กิโลเมตร เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพในการทำงานของระบบต่าง ๆ ของรถยนต์ และเป็นการถนอมรถยนต์ด้วยเช่นกัน เนื่องจากปัญหาไส้กรองแอร์สกปรกหรืออุดตัน จะส่งผลทั้งประสิทธิภาพในการขับขี่และบรรยากาศภายในห้องโดยสารไม่น้อยเลยทีเดียว

บทสรุป

กรองแอร์รถยนต์หรือไส้กรองแอร์ เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยรักษาบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้ดีขึ้น และมีความสบายมากที่สุด เนื่องจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ที่เข้ามาในห้องโดยสารผ่านทางช่องแอร์ ที่สำคัญ ควรจะเปลี่ยนไส้กรองแอร์ตามอายุการใช้งาน รวมถึงสังเกตจากฝุ่น คราบสกปรก รวมถึงสัญญาณเตือนต่าง ๆ ที่เกิดกับรถยนต์นั่นเอง

หากใครต้องการอุปกรณ์สำหรับรถยนต์ อะไหล่รถ รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ สามารถติดต่อสอบถามและเลือกซื้อได้ที่ CNC789 ร้านขายอะไหล่รถยนต์ที่มีบริการเกี่ยวกับรถยนต์แบบครบวงจรมากที่สุด โดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยให้คุณสามารถเลือกสรรอุปกรณ์และอะไหล่ที่ดีที่สุดสำหรับรถยนต์คู่ใจของคุณ